โรคกังวลทั่วไป (Generalized
Anxiety Disorder : GAD) ผู้ป่วยมีอาการกังวลเกินกว่าเหตุในหลายๆ
เรื่องพร้อมกัน ร่วมกับอาการทางกายต่างๆ โดยเฉพาะอาการทางระบบประสาทอัตโนมัติ
จนทำให้เกิดปัญหากับผู้ป่วยในหลายๆ ด้าน
สาเหตุ
1. ปัจจัยด้านจิตใจ
แนวคิดทฤษฎีจิตวิเคราะห์มองว่าอาการวิตกกังวลเป็นจากความขัดแย้งใจจิตไร้สำนึกที่ไม่ได้ถูกแก้ไข
มีความผิดปกติในแง่ของการรับรู้และแปลผลต่อเหตุการณ์ต่างๆ ในลักษณะมองโลกในแง่ร้าย
และยังประเมินความสามารถในการแก้ปัญหาของตนต่ำเกินจริงอีกด้วย
จึงทำให้เกิดความรู้สึกกลัวและกังวล
2. ปัจจัยด้านชีวภาพ ยังไม่ทราบแน่ชัด
แต่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับสารสื่อประสาทหลายตัว เช่น GABA,
serotonin ส่วนปัจจัยทางพันธุกรรมยังมีการศึกษาน้อยอยู่
เท่าที่มีก็ไม่พบความเกี่ยวข้องที่ชัดเจน
ลักษณะอาการ
อาการเด่น ได้แก่
- กลุ่มอาการวิตกกังวล
ความวิตกกังวลนี้จะมีมาก(excessive) เป็นอยู่ตลอด(persistent)
และเป็นไปกับแทบทุกเรื่อง (pervasive) เช่น
กลัวสามีจะประสบอุบัติเหตุ กลัวลูกถูกทำร้าย กลัวตึกถล่ม กลัวตนเองเจ็บป่วย ฯลฯ
- อาการทางระบบประสาทอัตโนมัติ เช่น
ใจสั่น เหนื่อยง่าย เพลีย หายใจขัด เหงื่อออก ท้องไส้ปั่นป่วน
- อาการระบบกล้ามเนื้อตึงเครียด เช่น
ปวดศีรษะ ปวดตามตัว กระสับกระส่าย ตัวสั่น
- Cognitive hypervigilance เช่น รู้สึกตื่นตัว ตกใจง่าย วอกแวก
ระยะการดำเนินโรค
อาการจะเป็นอยู่บ่อยๆ
นานกว่า 6
เดือน
การวินิจฉัย
A มีความวิตกกังวลมากเกินกว่าเหตุ
(apprehensive expectation) ต่อหลายๆเรื่อง
B ผู้ป่วยรู้สึกว่าไม่สามารถควบคุมความกังวลนี้ได้
C มีอาการทางกายต่างๆ
ดังต่อไปนี้ (อย่างน้อย 3 ใน 6 ข้อ, หรือ ในเด็กมีเพียง 1 ใน
6 ข้อ)
1) กระสับกระส่าย
2) อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย
3) มีปัญหาด้านสมาธิ ความจำ
4) หงุดหงิด
5) ปวดเมื่อย ตึงตามกล้ามเนื้อ
6) มีปัญหาเกี่ยวกับการนอน
การรักษา
การรักษาที่ดีที่สุด คือ
การรักษาโดยจิตบำบัดร่วมกับการใช้ยา
1. จิตบำบัด
Cognitive behavior therapy โดยแก้ไขการมองโลกที่ผิดไปของผู้ป่วย ให้กลับมามองอย่างถูกต้อง
ร่วมกับการใช้ relaxation technique เพื่อลดอาการทางกาย
Psychodynamic psychotherapy โดยพยายามช่วยให้ผู้ป่วยเข้าใจสาเหตุของความวิตกกังวล และสามารถทนกับความกังวลนั้นได้มากขึ้น
2. การรักษาด้วยยา
Benzodiazepine เช่น diazepam
ขนาด 5-15 มก./วัน
จะช่วยลดอาการวิตกกังวลและอาการทางกายได้ดี ซึ่งควรให้ยาต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน
Selective Serotonin Reuptake
Inhibitor (SSRI) การใช้ sertraline หรือ paroxetine
ได้ผลดี ไม่ค่อยฝช้ fluoxetine เพราะอาจจะทำให้มีอาการ
anxiety เพิ่มขึ้น
การใช้ยา Benzodiazepine
หรือ SSRI ควรให้นานต่อเนื่อง 6-12 เดือน หรืออาจจะให้ไปนานกว่านั้นได้ เพราะพบว่าหลังหยุดยาร้อยละ 60-80 มีโอกาสกลับเป็นซ้ำได้อีก ส่วนใหญ่ไม่ค่อยพบอาการดื้อยา (tolerance)
ในผู้ป่วยกลุ่มนี้
Propranolol ใช้เพื่อลดอาการใจสั่น
มือสั่น โดยปรับขนาดยาให้สามารถลดชีพจรได้ 5-10 ครั้ง/นาที
และต้องระวังผลข้างเคียงคือ depression , nausea และ bradycardia
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น