โรคประสาท (Neurosis) เป็นโรคทางจิตประเภทหนึ่ง
ที่เกิดจากความผิดปกติทางจิตที่ไม่สามารถควบคุมพฤติกรรม
และอารมณ์ให้เหมือนคนทั่วไปได้ ด้วยสาเหตุจากความวิตกกังวล ความไม่สบายใจ
จิตใจแปรปรวน อ่อนไหวง่าย มีความขัดแย้งในจิตใจ มีความรู้สึกไม่สบายใจ วิตกกังวล
ซึ่งจะมีอาการแสดงออกตามมา โดยผู้ป่วยมักแสดงออกทั้งทางร่างกาย
และจิตใจที่เห็นได้ชัด แต่ไม่รุนแรงเท่าโรคจิต
ผู้ป่วยสามารถมีจิตนึกคิดตามเหตุการณ์ที่เป็นจริง รู้ตัวเองอยู่เสมอ
ไม่มีอาการประสาทหลอนหรือเห็นภาพลวงตา หูแว่ว และสามารถใช้ชีวิตเหมือนคนปกติทั่วไป
โรคนี้สามารถเกิดได้ในทุกวัยเริ่มตั่งแต่วัยเด็กจนถึงคนสูงอายุ
สาเหตุ
1. สาเหตุทางพันธุกรรม
และโครงสร้างของร่างกาย ที่ทำให้เกิดความบกพร่องของร่างกาย เช่น การสูญเสียอวัยวะ
การพิการแต่กำเนิด เป็นต้น สิ่งเหล่านี้สามารถเป็นมูลเหตุทำให้เกิดความท้อแท้
และเป็นปมด้อยในชีวิตได้
2. สาเหตุทางสังคม และการใช้ชีวิต
ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางสังคมอย่างรวดเร็วทำให้การปรับตัวเข้ากับสังคมไม่ทัน
การถูกตอกย้ำทางสังคมในจุดด้อยที่ตนเองมี รวมไปถึงปัญหาชีวิตในด้านต่างๆ เช่น
ความยากจน การหย่าร้าง เป็นต้น สิ่งเหล่านี้เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดความเครียด
ความวิตกกังวล และภาวะทางประสาทตามมา
3. สาเหตุทางชีวะเคมี
ที่เกิดจากภาวะร่างกายเจ็บป่วยหรือผิดปกติจากสาเหตุต่างๆ
ทำให้ร่างกายหลั่งสารเคมีต่างๆผิดปกติ มีผลต่อการทำงานของระบบประสาท สมอง
ส่งผลต่อการแสดงออกของพฤติกรรมของโรคทางประสาท
4. สาเหตุจากสารเสพติด
ที่ผู้ป่วยมีการใช้สารเสพติดหรือสารที่มีผลต่อระบบประสาทมากเกินขนาดหรือสะสมเป็นเวลานาน
ทำให้เกิดอาการทางประสาทตามมา
5. สาเหตุทางอายุ
ในวัยเด็กเมื่อเผชิญกับเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดความกลัวอย่างรุนแรง
เด็กมักจดจำได้นาน และเก็บฝังภายในจิตใจ รวมไปถึงจุดพร่องที่ตนเองมีในวัยเด็ก
เมื่อเผชิญกับเหตุการณ์เหล่านั้นก็มักจะเกิดความกลัวได้ง่ายเมื่อเปรียบเทียบกับการเผชิญเมื่อเป็นวัยผู้ใหญ่
จะก่อให้เกิดความแปรปรวนของนิสัย เช่น การกัดเล็บ การดูดนิ้วมือ
การปัสสาวะรดที่นอน บางรายอาจมีการกระตุกเกร็ง และบางคนมีความรู้สึกหวาดกลัว
ส่วนวัยผู้สูงอายุ
มักเกิดอาการทางประสาทได้ง่ายในภาวะที่จิตใจอ่อนแอหรือรู้สึกทอดทิ้ง
ลักษณะอาการ
อาการของโรคประสาทมีลักษณะเด่นในเรื่องของการวิตกกังวลเป็นพิเศษ
และมีอาการอื่นร่วมด้วย ซึ่งผู้ป่วยมักมีอาการเหล่านี้ คือ
1. มีอารมณ์เครียด
วิตกกังวลหรือกลัวเกินกว่าปกติ
2. ชีพจรเต้นแรง เร็ว ใจสั่น
มีอาการแน่นหน้าอก อาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียน ปวดท้อง ท้องเสีย และปัสสาวะบ่อย
3. มีอาการเกร็งของระบบกล้ามเนื้อ มือสั่น
กล้ามเนื้อกระตุก
4. มักมีความคิดซ้ำซาก ย้ำคิดย้ำทำ วนไปวนมา
ในสิ่งที่ตนเองกังวล และมักคิดในแง่ร้าย ร่วมด้วยอาการกลัวในสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น
5. มีอาการเหม่อลอย ซึมเศร้า
6.
มีอาการตกใจง่ายเมื่อมีเสียงดังหรือมีเหตุการณ์ที่น่าตกใจ
การรักษาโรคประสาท
ระยะดำเนินโรค
ในผู้ใหญ่จะต้องมีอาการอยู่นานถึง
๒ ปี และในเด็กหรือวัยรุ่นต้องมีอาการ ๑ ปี จึงจะวินิจฉัย
อารมณ์เศร้าอาจเกิดติดต่อกัน หรือมีระยะที่อารมณ์เป็นปกติเกิดแทรกอยู่ ซึ่งจะกิน
เวลาตั้งแต่ ๒-๓ วัน ถึง ๒–๓ สัปดาห์
แต่ไม่เกิน ๒-๓ เดือน
การวินิจฉัย
โดยทั่วไปจะถือว่าป่วยเป็นโรคประสาทย้ำคิดย้ำทำ
เมื่ออาการย้ำคิดย้ำทำนั้นเป็นมากจนทำให้เกิดปัญหาหนึ่งใน 3 อย่างต่อไปนี้
1.อาการเป็นมากเลิกคิดเลิกทำไม่ได้จนทำให้รู้สึกเป็นทุกข์ทรมานมาก
2.อาการเป็นมากจนทำให้เสียงานเสียการเพราะมัวแต่ย้ำคิดย้ำทำหรือต้องคอยหลีกเลี่ยงสิ่งที่จะมากระตุ้นให้เกิดอาการย้ำคิด
3.อาการต่างๆ
ทำให้ต้องทำอะไรที่อาจก่อให้เกิดปัญหาตามมาได้เช่น
ต้องกินเหล้ากินเบียร์เพื่อลดความเครียด โกรธ และทำร้ายตัวเอง
หรือบางรายเกิดอาการซึมเศร้าอยากตาย หรือพยายามฆ่าตัวตาย
การรักษา
การรักษาอาการของโรคประสาทจะเน้นที่การเปลี่ยนแปลงทางกระบวนการคิดของผู้
ป่วยเป็นหลักที่จะส่งผลต่อพฤติกรรม และความคิดให้เหมือนคนปกติทั่วไป
ปัจจุบันทางการแพทย์มักใช้แนวทาง ดังนี้
1. การใช้ยา ในระยะการรักษาขั้นต้นอาจมีการใช้ยาหากผู้ป่วยมีอาการรุนแรงหรือใช้ยาเพื่อ
ลดอาการในระยะแรก ในการลดความวิตกกังวล เช่น ยาคลายเครียด ยานอนหลับ ยาบำรุงประสาท
เป็นต้น
2. การรักษาทางจิตใจหรือทางแพทย์เรียก
จิตบำบัด ผู้ป่วยจะได้รับการรักษาด้วยวิธีจิตบำบัด เพื่อปรับเปลี่ยนกระบวนการคิดทำให้ผู้ป่วยเกิดความเข้าใจตนเอง
ยอมรับในความเป็นจริง
3. พฤติกรรมบำบัด วิธีนี้มักใช้ควบคู่ไปกับกระบวนการจิตบำบัด
โดยการฝึกให้ผู้ป่วยสามารถจัดการกับความเครียด ความวิตกกังวลของตนเองด้วยวิธีการต่างๆ
สามารถแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้า เพื่อลดความเครียด
และอาการที่อาจแสดงออกทางร่างกายจากภาวะวิตกกังวล
4. แต่หากผู้ป่วยบางรายสามารถรับรู้ถึงภาวะที่ตนเองเป็นอยู่
ก็อาจสามารถบำบัดอาการป่วยทางจิตไดด้วยตนเอง
ด้วยการจัดการความเครียดหรือความวิตกกังวลด้วยวิธีต่างๆ เช่น การนั่งสมาธิ
การเข้าวัดฟังธรรม การท่องเที่ยวหรือการปรึกษาคนใกล้ชิด เป็นต้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น